ห้าม คลุมดำ

ตำนานสมิงพราย

เรื่องเล่านี้เป็นตำนานของจังหวัดแห่งหนึ่งใน ต.เขาสมิง ปู่กับหลานคู่หนึ่ง เดิมเป็นคนพื้นเพในละแวกนี้ เดินทางเข้าไปในป่า เพื่อตัดไม้มาเผาถ่านขาย หนทางเต็มไปด้วยเถาวัลย์ และกิ่งไม้ละโยงละย้า เดินไปพลางก็ฟันกิ่งไม้ไปพลาง อากาศเริ่มเย็นขึ้น ๆ เพราะตอนนี้สองคนปู่หลานเข้าป่ามาลึกมากแล้ว ซึ่งโดยทั่วไปจะค่อยมีคนเดินเข้ามาถึงที่นี่ "แกล้บ แกล้บ" เสียงเหยียบใบไม้แห้งดังมาจากที่ใดสักแห่งในป่า ปู่กับหลานหยุดเดิน แล้วเงื่ยหูฟัง แต่ก็ไม่ได้ยินอะไร ทั้งสองก็ไม่ได้คิดอะไรเดินตัดไม้ต่อไป จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปู่กับหลานก็หลงป่า เพราะมองไม่เห็นทาง หาทางออกจากป่าไม่เจอ จึงพยายามหาต้นไม้ที่สูง และกว้างพอที่จะนอนพักเอาแรงได้ เพื่อเดินทางกลับบ้านในวันรุ่งขึ้น คืนนั้นปู่กับหลานนอนอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ เพราะปู่รู้ดีว่าในกลางป่าอย่างนี้ต้องมีอันตรายแน่นอน




เวลาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ อากาศเย็นขึ้นกว่าเดิม วังเวงผิดปกติหลานก็หลับสนิท ปู่ก็ครึ่งหลับครึ่งตื่นได้ยินเสียงเหยียบใบไม้เหมือนเมื่อตอนกลางวัน ปู่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นแล้วปลุกหลาน หลานเหลือบไปเห็นหญิงคนหนึ่งหน้าตาคล้ายแม่ของตนเองมากแล้วพูดว่า "แม่มาตามหนูกลับบ้านหรือ" "จ้ะลูก" เสียงตอบจากหญิงคนนั้น "ลงมาหาแม่เร็ว" ขณะที่เด็กคนนั้นกำลังจะลงไปหาหญิงคนนั้น ปู่ก็คว้ามือของเด็กเอาไว้ ห้ามไม่ให้ไป แล้วพูดว่า "นั่นไม่ใช่แม่แกหรอก" เด็กก็ยังอยากจะไปหาแม่ จึงร้องไห้เสียงดัง หญิงคนนั้นก็เดินไปเดินมาแล้วเรียกเด็กคนนั้นต่อไป ปู่จึงหันไปกำใบไม้ข้าง ๆ ตัว แล้วเสกคาถากว้างไปยังหญิงที่อยู่ข้างล่าง หญิงคนนั้นร้องเสียงดังอย่างโหยหวน แล้วพยายามปืนขึ้นไปหาปู่ กับหลานสองคน แต่ปู่ก็เสกใบไม้แล้วคว้างลงไปอีก หญิงคนนั้นกลับกลายร่างเป็นเสือตัวเมีย ร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดแล้ววิ่งหนีหายไปในป่า...



ตำนานนี้จึงเกิดมาเป็น ต.เขาสมิง ของจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น